เครื่องเตรียมอาหาร รุ่นไหนดี 8 อันดับ ที่น่าซื้อ อัพเดทล่าสุดปี 2568
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อเครื่องเตรียมอาหารแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง เครื่องเตรียมอาหาร นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในเครื่องเตรียมอาหารอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ เครื่องเตรียมอาหารแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้
2. เครื่องเตรียมอาหาร(สําหรับปั้น+คั้นน้ําส้ม) OTTO FP-393
3. KitchenAid Food Processor เครื่องเตรียมอาหาร 7ถ้ายตวง
4. Tefal เครื่องบดสับ เครื่องเตรียมอาหาร เครื่องปั่นอเนกประสงค์ 1000 วัตต์ รุ่น Mf815
5. [พร้อมส่ง] เครื่องปั่นMarvel-X เครื่องเตรียมอาหาร บด สับ หั่น ซอย สไลด์ คั้น ทําเบเกอรี่ สารพัดประโยชน์ 7IN1
6. Kenwood เครื่องเตรียมอาหาร Multipro Go รุ่น Fdp22.130Gy
7. ผ่อนได้ 0% ****KITCHENAID เครื่องเตรียมอาหาร รุ่น 5KFP0719WER
8. เครื่องเตรียมอาหาร มาร่า บดพริก บดกระเทียม
วิธีเลือกซื้อเครื่องผสมอาหารที่คุณแม่บ้านต้องไม่พลาด โดย ร้านค้าอย่างเป็นทางการของพวกเรา
ร้านค้าอย่างเป็นทางการของพวกเรามีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้เลือกใช้กันหลากหลายประเภทด้วยกัน อาทิ ไมโครเวฟ , เครื่องทำวาฟเฟิล , เครื่องดูดความชื้น ซึ่งรวมถึงเครื่องเตรียมอาหารด้วย โดยเครื่องเตรียมอาหารนี้ก็มีชื่อเรียกหลายชื่อด้วยกัน ทั้งเครื่องผสมอาหารและเครื่องปั่นอาหาร ยิ่งสำหรับคุณแม่บ้านหรือมือใหม่หัดทำขนมหรือเบเกรี่แล้ว เครื่องผสมอาหารถือเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ที่ผลิตเครื่องผสมอาหารคุณภาพเยี่ยมมาให้เลือกกันแทบไม่ถูกเลย และเพื่อให้เลือกซื้อกันได้ง่ายขึ้นนั้น ทาง iPrice ก็มีวิธีเลือกซื้อมาบอกต่อกัน ดังนี้
- ดูจำนวนวัตต์ของมอเตอร์เป็นอันดับแรก
- ก่อนอื่นเลยคุณแม่บ้านหรือนักทำขนมมือใหม่ต้องดูที่จำนวนวัตต์ของมอเตอร์ว่าสมเหตุสมผลกับราคาหรือเปล่า ซึ่งถ้าเครื่องมีจำนวนวัตต์สูงก็แปลว่าแรงปั่นสูงและจะช่วยลดเวลาในการผสมอาหารลงเยอะเลย หากต้องการเครื่องผสมอาหารสำหรับผสมหรือตีแป้ง ให้เลือกจำนวนวัตต์มากกว่า 500 วัตต์ขึ้นไป เนื่องจากถ้าจำนวนวัตต์น้อยกว่านี้จะเสียหายและพังง่ายได้ แต่ถ้าต้องการแค่ตีไข่หรือส่วนผสมอื่น ๆ ก็ให้เลือกเครื่องผสมอาหารที่มีจำนวนวัตต์ต่ำกว่า 500 วัตต์
- เลือกขนาดโถให้เหมาะสม
- ขนาดโถหรือขนาดความจุของเครื่องผสมอาหารนั้นก็สำคัญไม่น้อยเลย เพราะฉะนั้นควรเลือกความจุที่ได้มาตรฐานคือ 5 ลิตรขึ้นไป เพราะจะช่วยให้ทำขนทหรือเบเกอรี่ได้ครั้งละมากพอประมาณ หรือจะเลือกจากขนาดของเตาอบที่มีก็ได้ คือ เตาอบขนาด 45 หรือ 70 ลิตร ให้ใช้เครื่องผสมอาหารขนาด 5 ลิตร แต่ถ้าใช้เตาอบแบบอบเป็นถาดอย่างเตาอบแก๊ส เตาอบไฟฟ้า หรือเตาอบแก๊สคุมไฟฟ้า ก็ให้เลือกเครื่องผสมอาหารมากกว่า 10 ลิตรขึ้นไป อย่างเช่น 15 ลิตร 20 ลิตร หรือ 30 ลิตรก็ได้
- เลือกซื้อจากวัสดุการผลิต
- รู้หรือไม่ว่าวัสดุที่ใช้ในการผลิตเครื่องผสมอาหารก็บ่งบอกอายุการใช้งานของเครื่องผสมอาหารได้ด้วย จึงควรเลือกเครื่องที่ผลิตจากเหล็กตัวใหญ่เพราะจะทนทานต่อการใช้งานได้ครบทุกรูปแบบ โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะพังเสียหายแต่อย่างใด ส่วนเครื่องผสมอาหารแบบพลาสติกเครื่องเล็ก จะมีแรงขับเคลื่อนไม่ดีและทำความสะอาดยากกว่าแบบเหล็กด้วย
ดูแลรักษาเครื่องผสมอาหารอย่างไรให้ใช้ได้นาน
เมื่อบอกต่อวิธีเลือกซื้อเครื่องผสมอาหารกันไปแล้ว ร้านค้าอย่างเป็นทางการของพวกเราก็ไม่พลาดอัพเดตวิธีดูแลรักษาเครื่องผสมอาหารให้ใช้ได้นานแก่คุณแม่บ้านและนักทำขนมมือใหม่ด้วย ซึ่งได้แก่
- อ่านคู่มือการใช้งาน
- ก่อนลงมือทำความสะอาดเครื่องผสมอาหารให้อ่านคู่มือการใช้งานโดยละเอียด เพื่อเลี่ยงการทำความเสียหายแก่เครื่องผสมอาหาร
- ฐานรองต้องมั่นคงแข็งแรง
- อย่าลืมวางเครื่องผสมอาหารบนฐานรองที่มั่นคงแข็งแรง เพื่อลดอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงต่อการทำเครื่องชำรุด
- เลือกความเร็วให้เหมาะสม
- ก่อนปั่นหรือผสมอาหารทุกครั้ง อย่าลืมเลือกความเร็วในการผสมอาหารให้เหมาะสมด้วย
- ปิดเครื่องก่อนเติมส่วนผสมลงไป
- ควรหยุดการทำงานของเครื่องก่อนเติมส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้คุณแม่บ้านหรือนักทำขนมมือใหม่ก็ควรปิดเครื่องและถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งานเครื่องผสมอาหาร ทุกครั้งที่ทำความสะอาดก็ระวังไม่ให้มอเตอร์โดนน้ำ และถ้าเครื่องมีปัญหาเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าให้เลิกใช้ทันที