9 อันดับ เป้อุ้มเด็ก ที่คุณไม่ควรพลาด อัพเดทล่าสุดปี 2567
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อเป้อุ้มเด็กแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง เป้อุ้มเด็ก นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในเป้อุ้มเด็กอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ เป้อุ้มเด็กแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้
2. Sunveno ใหม่ เป้อุ้มเด็ก แบบสะพายไหล่ข้างเดียว ปรับได้ ถอดออกได้ คุณภาพสูง
3. 【Moms Best Choice】เป้อุ้มเด็ก เป้อุ้มลูก 0-36เดือน Hip Seat Baby Carrier 3-In-1 แบบมีที่นั่ง แยกได้ มีช่องเก็บของใต้เบาะ Ergonomic Carrier
4. Baby-boo เป้อุ้มเด็ก รุ่นใหม่ Hip Seat สะพายหน้าและสะพายหลังได้ สามารถใช้ได้ตั้งแรกเกิด ถึง 3 ปี รุ่น
5. เป้อุ้มเด็ก เป้อุ้มเด็กแรกเกิด เป้อุ้มเด็กออกไปข้างนอกและถือสิ่งประดิษฐ์สําหรับทารก
6. เป้อุ้มเด็กมัลติฟังก์ชั่น สะพายข้าง สายกันลื่น เป้อุ้มเด็ก
7. 【แถมผ้ากันเปื้อน】เป้อุ้มเด็ก เป้อุ้มเด็กแรกเกิด เป้อุ้มทารก แบบมีที่นั่งคาดเอว เนื้อหน้าหนานุ่มพรีเมี่ยม รุ่น63
8. เป้อุ้มเด็กแบบมีที่นั่งAiebao ของแท้
9. พร้อมส่งเป้อุ้มเด็ก กระเป๋าอุ้มเด็ก เป้อุ้มเด็กแรกเกิด 0-3 ขวบ มัลติฟังก์ชั่น เป้อุ้มเด็กนั่งได้
บทความในวันนี้ เราจึงจะมาให้ข้อมูลวิธีการเลือก อีกทั้งแนะนำเป้อุ้มเด็ก (แบบอุ้มด้านหน้าได้เป็นหลัก) ที่ขายดีในตอนนี้ รวมถึงอธิบายข้อดีของเป้อุ้มเด็กลักษณะต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อให้ผู้ปกครองทั้งหลาย โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งมีลูกคนแรกค่ะ
'เป้อุ้มเด็ก' โดยเฉพาะแบบสะพายด้านหน้ามีจุดเด่นสำคัญที่แตกต่างจากแบบสะพายหลังตรงที่ คุณแม่-คุณลูกจะมองเห็นกันตลอดเวลา และสะดวกกว่าเพราะคุณแม่สามารถนั่งในขณะอุ้มลูกได้ ทำให้อุ้มเป็นเวลานานหรือพาเดินออกข้างนอกได้อย่างสบาย
คุณแม่หลายคนอาจเคยโดนบอกว่าไม่ควรอุ้มลูกมาก เพราะเดี๋ยวลูกจะติด แต่อย่าลืมนะคะว่า 'การอุ้ม' คือ การสื่อสารสำคัญที่จะเป็นตัวเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกได้อย่างดีเลยค่ะ การมีเป้อุ้มเด็กก็จะช่วยให้อุ้มเจ้าตัวน้อยได้นานขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องระวังท่าที่ใช้อุ้มด้วย เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ วันนี้ เราจึงนำวิธีการอุ้มเด็กที่เหมาะสมมาฝากกัน ติดตามอ่านกันต่อได้เลยค่ะ !
ต่อจากนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเป้อุ้มเด็กแบบด้านหน้า และตอบคำถามที่เหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่สงสัยกัน เช่น ควรใช้เป้อุ้มเด็กเมื่อไหร่? ใช้จนลูกอายุกี่ขวบ? ใช้อย่างไร? เป็นต้น จะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ !
เป้อุ้มเด็กแบบอุ้มด้านหน้ายังสามาถแบ่งตามลักษณะการใช้งานใหญ่ ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบสะพายและแบบเปล ซึ่งทั้งสองประเภทนี้จะแตกต่างกันอย่างไร เราได้อธิบายไว้ด้านล่างนี้แล้วค่ะ
เป้อุ้มเด็กแบบสะพายมีจุดเด่นอยู่ที่ความคงทนแข็งแรง อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนท่าทางการอุ้มได้หลายท่าในชิ้นเดียว โดยมีทั้งการอุ้มแบบหันหน้าเข้าหาตัวผู้อุ้ม, อุ้มในท่านอน, อุ้มหันออกด้านหน้า, อุ้มเข้าสะโพก และสะพายหลัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เป้อุ้มเด็กแบบสะพายที่วางขายอยู่จะเปลี่ยนท่าทางการอุ้มได้ 3 ถึง 5 ท่า เรียกได้ว่า รองรับการใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้คนอุ้มมากเลยทีเดียวค่ะ
นอกจากนี้ บางรุ่นบางยี่ห้อยังมีสายรองตรงบริเวณสะโพก จึงช่วยถ่ายเทน้ำหนักของทารกจากบริเวณบ่าไปยังสะโพกของผู้อุ้มได้ ทำให้อุ้มด้นานขึ้นโดยที่ร่างกายไม่รู้สึกเมื่อยล้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่มีปัญหาปวดแขน หรือปวดไหล่เวลาต้องอุ้มลูกน้อยเป็นเวลานาน ๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ต้องปรับท่าทางการอุ้มได้หลากหลาย จึงทำให้เป้มีขนาดใหญ่ พับเก็บได้ยาก และพกพาไม่ค่อยสะดวก เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ใช้วิธีการเดินบ่อย ๆ เวลาออกนอกบ้านหรือตอนไปเที่ยวต่างประเทศ
เป้อุ้มเด็กแบบเปล (Sling) เป็นเป้ที่มีลักษณะเป็นผ้าห่อหุ้มตัวทารกเอาไว้ ไม่มีฟองน้ำนิ่ม ๆ ซัพพอร์ตเหมือนเป้อุ้มเด็กแบบสะพาย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้มือของผู้อุ้มเป็นตัวซัพพอร์ต ส่วนในด้านดีไซน์นั้น หากเทียบกับเป้อุ้มเด็กแบบสะพายแล้ว มักดูสวยงามเรียบง่ายกว่า จุดเด่นของเป้ชนิดนี้ คือ สะดวกต่อการให้นมลูก จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ลูกอ่อนที่อยู่ในระยะให้นมบุตรค่ะ
นอกจากจุดเด่นที่กล่าวไปแล้ว เป้แบบสลิงยังสามารถพับให้มีขนาดเล็กได้ คุณจึงพกไว้ในถุงย่ามหรือพกติดไปในเบบี้คาร์ได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม หากใช้เป้อุ้มเด็กชนิดนี้ไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ เช่น เกิดการเคลื่อนที่ของกระดูกสะโพกของทารก ทารกหายใจไม่ออก หรือทำทารกลื่นตกได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงต้องมีการใช้งานอย่างระมัดระวัง รวมทั้งศึกษาคู่มือการใช้ให้ละเอียดรอบคอบด้วยค่ะ
เป้อุ้มเด็กจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นต้องพิจารณาจากอายุของเด็ก สำหรับทารกแรกเกิด ให้เลือกเป้อุ้มเด็กประเภทนอนราบเนื่องจากคอของทารกวัยนี้ยังไม่แข็งแรงพอ หากคุณแม่ไม่ได้มีโอกาสที่ต้องพาลูกน้อยออกไปข้างนอกบ่อย แนะนำว่าให้รอจนลูกชันคอได้ก่อน ซึ่งจะมีช่วงอายุราว ๆ 3 เดือน แล้วค่อยซื้อเป้ที่ใช้กับเด็กอายุ 3 เดือนจึงจะคุ้มค่ากว่า
มาถึงตรงนี้ ผู้ปกครองหลาย ๆ คนคงจะคิดว่า ทำไมไม่ซื้อแบบที่ใช้งานได้จนถึงตอนลูกอายุ 3 ขวบ ไปเลยล่ะ จะได้ประหยัดเงินตั้งแต่ครั้งแรก แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมนะคะว่า ในขณะเดียวกันทารกก็มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา ส่งผลให้ท่าทางในการอุ้มต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย เป้ที่คิดว่าใช้งานได้นานอาจไม่ได้สัดส่วนกับขนาดของลูกเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อตัวเด็ก เราขอแนะนำให้ซื้อเป้อุ้มเด็กตามอายุและขนาดของเด็กจะเหมาะสมที่สุด
- อุ้มแนวนอน (แบบนอนราบ)
- อุ้มแนวตั้งแบบหันหน้าทารกเข้าหาผู้อุ้ม
- อุ้มแนวตั้งแบบหันหน้าทารกออกทางด้านหน้า
- อุ้มเข้าสะโพก
- สะพายหลัง
นอกจากเป้อุ้มเด็กแบบอุ้มด้านหน้าอย่างเดียวแล้ว บางผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ตามท้องตลาดจะมีท่าทางการอุ้มที่แตกต่างกันหรือสามารถใช้อุ้มได้หลายแบบในตัวเดียว คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่รองรับท่าทางการอุ้มในแบบที่ถนัด ต้องศึกษารายละเอียดของสินค้าให้ดีและใช้งานด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับลูกน้อยของคุณค่ะ
เด็กทารกจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าผู้ใหญ่และมีเหงื่อออกง่ายกว่า ยิ่งเมืองร้อนแบบบ้านเราด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ร้อนและเหงื่อออกง่ายเข้าไปใหญ่ เพื่อปกป้องลูกน้อยจากการเกิดผดผื่นจากความอับชื้น จึงขอแนะนำว่า หากเป็นไปได้ให้เลือกเป้ที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นตาข่ายเพราะช่วยระบายอากาศได้ดี แถมยังลดปัญหาอบอ้าวและกลิ่นอับชื้นได้อีกด้วย
- ขาของเด็กกางเป็นรูปตัว M หรือไม่
- ตัวเด็กอยู่ในระดับที่ผู้อุ้มสามารถก้มหอมตรงหน้าผากเด็กได้หรือไม่
- ก้นของเด็กอยู่ในระดับที่เหนือกว่าสะดือของผู้อุ้มหรือไม่
นอกจากนี้ อย่าลืมเช็กด้วยว่ารูปร่างของเป้เข้ากับสรีระของผู้อุ้มหรือไม่ มีส่วนซัพพอร์ตที่ช่วยลดการเมื่อยล้าด้วยก็จะยิ่งดีค่ะ หากใครซื้อตามร้านค้าออนไลน์ ก็อย่าลืมหารีวิวอ่านเยอะ ๆ ไว้เป็นข้อมูลอีกทางนึงด้วยนะคะ
หลังจากที่ได้รู้วิธีการเลือกซื้อเป้อุ้มเด็กไปแล้ว เราก็จะขอนำเสนอเป้อุ้มเด็กที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศมาฝากกันอีกด้วยค่ะ
แต่เนื่องจากเป้มีสายพาดบ่าข้างเดียว หากอุ้มเป็นเวลานาน อาจมีโอกาสทำให้เมื่อยไหล่ได้เช่นกัน จึงแนะนำให้ใช้กับทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักไม่มากหรือไม่ได้อุ้มเป็นเวลานานค่ะ และเพื่อความปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีการใช้งานให้ดีก่อนใช้จริง
คุณแม่ที่ไม่เคยใช้เป้แบบนี้ ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่ายุ่งยากและเป็นกังวล แต่หากใช้งานจนชินแล้ว จะพบว่าสวมใส่ง่ายเหมือนเสื้อยืด ไม่ต้องพันเองเหมือนแบบสลิงรุ่นอื่น สามารถกระจายน้ำหนักเพื่อลดความล้าบริเวณไหล่ได้ เปลี่ยนท่าอุ้มได้ถึง 5 แบบ จัดเก็บและพกพาได้สะดวก อีกทั้งยังซักทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
มี Hipseat เบาะนุ่มไม่กดหน้าท้องคนอุ้ม สายสะพายกว้างถึง 80 mm ผ่อนแรงในการอุ้มได้ดี ใช้งานได้หลายรูปแบบคือสะพายด้านหน้าในแนวตั้ง ทั้งแบบเด็กหันหน้าเข้าหาผู้อุ้มและหันออก หรือจะสะพายหลังก็ได้ ถูกใจคุณพ่อคุณแม่หลายท่าน
ข้อดีอีกอย่างคือ สามารถพับเก็บได้สะดวกเป็น Pocket Seat มีขนาดกะทัดรัดเท่ากระเป๋าสะพายข้างใบหนึ่ง และรองรับน้ำหนักได้ถึง 18 kg เหมาะแก่การพกพาไปท่องเที่ยว คุณภาพดีแถมยังราคาไม่แพงแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องรีบไปจับจองกันแล้วค่ะ
เป้สีสวย ดีไซน์น่ารัก ราคาไม่แรงแต่มีฟังก์ชันครบครันมากกว่าที่คิด สามารถใช้กับเด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบ รองรับน้ำหนักได้สูงสุดที่ 20 kg วัสดุทำจาก Polyester บวกกับผ้าฝ้ายที่ช่วยให้สบายผิว ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ใช้อุ้มได้ถึง 5 แบบ
มีสายแบบสะพายไขว้แบบเฉพาะของแบรนด์ช่วยกระชับและเสริมแรงในการอุ้มมากขึ้น ตัวเบาะนั่งมีตัวกันลื่น และออกแบบองศาเอียงพอเหมาะป้องกันลูกน้อยพลัดหล่น มีกระเป๋าใส่ของหลายช่องถูกใจคนสัมภาระเยอะ ช่องด้านหน้าหากไม่ใช้ใส่ของแล้วถอดออกจะเป็นผ้าตาข่ายช่วยระบายอากาศได้ด้วย
การออกแบบทางแบรนด์ได้ร่วมมันกับนักสรีรศาสตร์เพื่อให้การใช้เป้ไม่ส่งผลเสียกับข้อต่อของเด็ก ขาไม่โก่งและถูกสรีระของผู้อุ้มทำให้อุ้มได้นาน ป้องกันการปวดหลัง แม้จะไม่มีเบาะโฟมแต่ก็มีข้อดีที่ทำให้พับเก็บพกพาได้ง่ายกว่า ส่วนเรื่องราคาค่อนข้างสูง จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานเป็นประจำทุกวัน
ผ้าด้านในที่ต้องสัมผัสกับผิวของลูกน้อยผลิตจาก Cotton 100% บริเวณส่วนอื่นๆ จะเป็น Polyester และ Cotton ผ่านการการันตีว่าวัสดุทุกส่วนไม่เป็นอันตรายต่อผิวอันบอบบางของทารก มีสายสะพายไหล่ที่หนาทำให้ผู้อุ้มไม่เมื่อย สามารถสวมใส่และถอดออกได้ด้วยตัวเอง ถือว่าสะดวกอย่างมากสำหรับคุณแม่คุณพ่อที่อยู่บ้านหรือออกไปไหนเพียงลำพัง
ใช้ได้กับเด็กทารกแรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปี ใช้อุ้มได้ 2 แบบ คือแบบหันหน้าเข้าหาผู้อุ้มและแบบ Hip Seat หรือเบาะรองนั่ง ตัว Hip Seat เบาแต่เข็งแรง ออกแบบให้เป็นมุมเอียง 30 องศา ป้องกันเด็กขาโก่ง ปลอดภัยเพราะมีผ้ากันลื่นติดไว้ บริเวณขอบสัมผัสโคนขาเด็กบุด้วยผ้าชนิดที่นุ่มเป็นพิเศษ จึงไม่เสียดสีให้เกิดเป็นแผล ผู้ใช้จริงต่างการันตีว่าใช้แล้วไม่ปวดหลัง อุ้มลูกได้ตลอดทั้งวัน
จุดเด่นอีกอย่างที่แตกต่างจากรุ่นอื่น คือ มีช่องใส่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จำเป็นพกพาไปได้ เพิ่มความสะดวกเวลาที่คุณพ่อคุณแม่อยากพาน้องไปเดินเล่น มีให้เลือก 2 สีแบบเรียบ ๆ แต่ขึ้นชื่อว่า Enfant แล้วล่ะก็ เน้นคุณภาพที่ไว้ใจได้แน่นอนค่ะ
บริเวณซิปด้านหน้าเมื่อเปิดออกจะเป็นผ้าตาข่าย ช่วยให้เด็กรู้สึกเย็นสบาย สายสะพายไหล่และเอวยังออกแบบมาอย่างแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอีกหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานได้แก่ ผ้าคลุมศีรษะ ส่วนรองคอ ช่องกระเป๋าใส่ของด้านหน้าที่มีพื้นที่ใหญ่พอสมควร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่มีลูกหลายคน เพราะสามารถใช้งานได้ยาวนานและเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย
นอกจากนี้เรายังแนะนำให้ทดลองใช้ก่อนซื้อหรือศึกษารีวิวจากพ่อแม่ท่านอื่นให้มากที่สุด เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย ไม่ใช่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้งานแล้วแขวนไว้เฉย ๆ จะทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้ค่ะ และที่สำคัญ เมื่อซื้อมาใช้แล้วควรหมั่นซักทำความสะอาดให้ดีโดยเฉพาะส่วนที่เลอะน้ำลายของลูก จะได้ไม่มีเชื้อโรคเข้าสู่ปากเด็กและเป็นการรักษาสุขอนามัยที่ดีของครอบครัวนะคะ