จัดอันดับ 9 อันดับ ของ เหยือกกาแฟ ยอดฮิตน่าซื้อ อัพเดทล่าสุดปี 2567

ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า อันดับแรก เรามาศึกษาวิธีการเลือกเหยือกกาแฟ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อใบที่ถูกใจและเหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุด มาดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะว่าจะต้องพิจารณาอะไรบ้าง

สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาก็คือ เลือกประเภทของเหยือกกาแฟตามการใช้งานของคุณ โดยทั่วไปมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ เหยือกเสิร์ฟกาแฟ (Server) และโถรองกาแฟ (Cafare) ซึ่งหากคุณมีดริปเปอร์ (Dripper) หรือกรวยกรอง ที่ถูกใจและใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว เราแนะนำให้เลือกเหยือกเสิร์ฟกาแฟเพียงอย่างเดียว ในทางกลับกัน หากคุณยังไม่มีดริปเปอร์ การเลือกโถรองกาแฟที่รวมเหยือกกาแฟกับดริปเปอร์ไว้ด้วยกัน ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีเลยค่ะ

เหยือกเสิร์ฟกาแฟนั้นมีความแม่นยำ เพราะมีสเกลสำหรับวัดปริมาตรของกาแฟ อีกทั้งมีข้อดีคือ สามารถเลือกขนาดได้หลากหลายตามการใช้งาน จึงสะดวกต่อการเสิร์ฟหรือนำกาแฟไปอุ่น หากต้องการเลือกเหยือกประเภทนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ขนาดของดริปเปอร์จะพอดีกับขนาดของปากเหยือกด้วย

ส่วนโถรองกาแฟจะถูกออกแบบอย่างมีสไตล์และทันสมัย เหมาะสำหรับใครที่ต้องการประยุกต์ให้โถรองกาแฟเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือบ้านก็ดีทีเดียว นอกจากนี้ คุณไม่จำเป็นต้องมีดริปเปอร์แยกต่างหากด้วย ดังนั้น จึงช่วยประหยัดเงินได้ค่ะ

เหยือกกาแฟผลิตได้จากวัสดุหลายชนิด ที่พบเห็นได้บ่อย คือ แก้วและสเตนเลส ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุดค่ะ

หากคุณชื่นชอบเหยือกกาแฟที่มีสไตล์ เราขอแนะนำให้เลือกใช้วัสดุที่เป็นแก้ว เนื่องจากมีให้เลือกหลายรูปทรง อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงาม ดังนั้น จึงสามารถเข้ากับการตกแต่งภายในได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โถรองกาแฟทรงสูง ซึ่งมีที่จับเป็นไม้หรือหนังก็สวยทันสมัยไม่แพ้กันนะคะ

เหยือกแก้วมักจะมีราคาที่สมเหตุสมผลและด้วยความโปร่งใสของแก้ว จึงทำให้มองเห็นปริมาตรของกาแฟได้ชัดเจน แต่มีข้อควรระวังคือ แก้วจะเย็นช้า และเปราะบางอีกด้วย คุณจึงต้องใช้งานด้วยความระมัดระวัง แต่ถ้าเลือกใช้แก้วที่มีความหนา จะมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนสูงได้ จึงไม่แตกง่าย ทำให้คุณสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นค่ะ

ถ้าคุณต้องการเก็บความร้อนของกาแฟหลังจากต้ม ควรเลือกใช้เหยือกสเตนเลสที่รักษาอุณหภูมิได้ เนื่องจากมีฉนวนกันความร้อนสูง จึงเก็บทั้งความร้อนและความเย็นได้ดี มีลักษณะคล้ายกับหม้อต้ม ซึ่งส่วนใหญ่จะสามารถรองรับกาแฟโดยตรงจากดริปเปอร์ได้เลยค่ะ

อย่างไรก็ตาม กาแฟที่ต้มแล้วมักจะสูญเสียรสชาติเมื่อถูกอุ่นอีกครั้ง ดังนั้น เหยือกสเตนเลสจึงเหมาะกับผู้ที่กังวลว่ากาแฟจะเสียรสชาติไป หรือผู้ที่ต้องการดื่มกาแฟอย่างช้า ๆ เพื่อสัมผัสกับรสชาติที่แท้จริง นอกจากนี้ ยังมีความทนทาน แม้ว่าคุณจะทำหล่น เหยือกสเตนเลสก็จะไม่เสียหายหรือแตกได้ง่ายแบบชนิดแก้วด้วยค่ะ

อันดับต่อมา ควรเลือกความจุของเหยือกกาแฟให้เหมาะสมกับวิธีการดื่มและจำนวนคนที่จะดื่มกาแฟในแต่ละครั้ง ซึ่งโดยทั่วไป ถ้วยกาแฟมีความจุประมาณ 150 ml ส่วนแก้วกาแฟจะมีความจุประมาณ 200 ml ค่ะ

หากคุณมีครอบครัวใหญ่ หรือมีแขกมาเยี่ยมเยือนบ่อย ๆ ทำให้มีโอกาสได้ชงกาแฟปริมาณมากในแต่ละครั้ง ดังนั้น แนะนำให้เลือกเหยือกกาแฟขนาดใหญ่ที่มีความจุประมาณ 800 - 1,000 ml นอกจากนี้ หากคุณชอบชงกาแฟตอนเช้า เพื่อดื่มหลาย ๆ ครั้งในระหว่างวัน การเลือกเหยือกขนาดใหญ่ก็จะสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

ในทางกลับกัน ถ้าคุณมีครอบครัวเล็กหรือไม่ได้ดื่มกาแฟมากนัก ขอแนะนำเหยือกที่ขนาดเล็กลงมา ซึ่งมีความจุประมาณ 400 - 600 ml ทำให้เมื่อใส่กาแฟแล้วไม่หนักจนเกินไปและไม่ลื่นหลุดมือ จึงถือใช้งานได้ง่ายค่ะ

หากคุณพบว่า การชงกาแฟวันละหลาย ๆ ครั้งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เราแนะนำให้เลือกเหยือกกาแฟแบบที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักทำมาจากแก้ว เพราะหากใช้ร่วมกับไมโครเวฟได้ ก็จะอุ่นได้ง่ายและสะดวกขึ้นด้วยค่ะ

แม้ว่ารสชาติจะไม่เหมือนกับการชงใหม่ แต่การอุ่นด้วยวิธีนี้ยังดีกว่าการเทใส่ถ้วยแล้วอุ่นอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในช่วงเวลาที่เร่งรีบ หรือต้องการทำให้กาแฟร้อนมาก ๆ ในครั้งเดียวค่ะ

อย่างไรก็ตาม มีเหยือกแก้วบางรุ่นที่ไม่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ด้วย เพราะมีส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ทำจากไม้หรือหนังแบบที่ถอดออกไม่ได้ ดังนั้น คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อด้วยนะคะ

ถ้าคุณกำลังมองหาเหยือกกาแฟ แต่ก็ยังไม่มีดริปเปอร์ เราขอแนะนำให้เลือกซื้อเหยือกกาแฟแบบครบชุด ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นชงกาแฟดริปมาก ๆ เพราะมีทั้งดริปเปอร์และเหยือกกาแฟที่มีขนาดพอดีกัน จึงใช้งานร่วมกันได้ดี นอกจากนี้ ยังมีดีไซน์ที่เข้ากัน ทำให้ดูสวยงามและทันสมัยอีกด้วย หากคุณไม่ได้มีดริเปอร์หรือเหยือกกาแฟที่เฉพาะเจาะจงอยู่ในใจแล้ว การเลือกซื้อแบบครบชุดก็เป็นไอเดียที่ดีเลยนะคะ

หลังจากที่ทราบวิธีการเลือกไปแล้ว เราขอพาทุกคนมาพบกับ 10 อันดับ เหยือกกาแฟ ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ จากร้านค้าออนไลน์ เพื่อให้คุณได้สินค้าคุณภาพดีไปใช้งานกัน มาดูกันเลยค่ะว่า จะมีรุ่นไหนถูกใจกันบ้าง

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับวิธีการเลือกเหยือกกาแฟ พร้อมทั้งการแนะนำ 10 อันดับ เหยือกกาแฟคุณภาพดี ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่า แต่ละยี่ห้อนั้นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุด ทางทีมงานมายเบสท์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังมองหาเหยือกสำหรับกาแฟสำหรับใช้งานที่บ้าน เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับการลิ้มรสชาติกาแฟที่สดใหม่กันนะคะ

สุดท้ายนี้ นอกจากการเลือกเหยือกกาแฟหรืออุปกรณ์อื่น ๆ จะเป็นสิ่งที่สำคัญแล้ว เราขอแนะนำให้คุณศึกษาวิธีการชงที่ถูกต้องด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเพิ่งเริ่มต้นหัดชงกาแฟ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพ ไม่เสียรสชาติที่แท้จริงไป เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ลิ้มรสกาแฟที่สดใหม่และหอมกรุ่นด้วยตัวคุณเองได้แล้วค่ะ